การใช้งานโปรเจคเตอร์อย่างถูกวิธี
1.จะต้องต่อสายสัญญาณต่างๆ เช่น RGB, Video หรือ Audio ระหว่างคอมพิวเตอร์กับ โปรเจคเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเสียบปลั๊กเปิดเครื่อง เพื่อความปลอดภัยของโปรเจคเตอร์และ คอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากการต่อสายสัญญาณต่างๆหลังจากที่เปิดเครื่องแล้ วอาจจะท าให้ Port หรือจุดต่อสัญญาณของโปรเจคเตอร์และคอมพิวเตอร์ของคุณเสียหายได้ ถ้าหากมแรงดันไฟฟ้า ระหว่าง กราวด์ของคอมพิวเตอร์และโปรเจคเตอร์ต่างกัน นอกจากนั ้นอาจท าให้ภาพที่ฉายออกจอโปรเจคเตอร์ ไม่ถูกต้องหรือไม่ออกเนื่องจากสัญญาณที่ส่งจากคอมพิวเตอร์ไม่ Sync กับโปรเจคเตอร์ซึ่งจะต้อง เสียเวลาสำหรับปรับแต่งใหม่ ดังนั ้นเพื่อความปลอดภัยและลด ขั้น ตอนการใช้งานจึงแนะนำให้ปฏิบัติ ตามขั้นตอนดังกล่าวทุกครั้งนะครับ
2.ในกรณีมีการพักหรือเบรคระหว่างการประชุม การปิดเครื่องโปรเจคเตอร์เพื่อประหยัดอายุ หลอดเป็นความคิดที่ผิด เนื่องจากในระหว่างการเปิดเครื่องจะต้องใช้ไฟฟ้าแรงดันสูงกว่าในขณะที่ หลอดสว่างเต็มที่ดังนั้นการเปิดเครื่องระหว่างที่หลอดยังร้อนอยู่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หลอดภาพเสื่อม ก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งตามสถิติพบว่าโปรเจคเตอร์ที่ใช้งานต่อเนื่องจะมีอายุหลอดมากกว่าโปรเจคเตอร์ ที่มีระยะเวลาการใช้แต่ละครั้งน้อย แต่มีการปิด-เปิดบ่อย ดังนั ้นในกรณีที่ต้องการพักการประชุมเป็น เวลาสั ้นๆ เช่น Coffe Break แนะน าให้กดปุ่ม Mute บนรีโมทเพื่อปิดภาพชั่วคราวแทนการปิดเครื่อง
3.หลังจบการประชุมจะต้องปิดเครื่องโดยกดปุ่ ม Power บนตัวเครื่องหรือบนรีโมทเท่านั้น ห้าม ปิด Main Switch หรือยก Breaker หน้าห้องประชุมเด็ดขาดครับเพราะการท าดังกล่าวจะทำให้ อายุการ ใช้งานหลอดภาพลดลงโดยที่ท่านไม่รู้ตัว และก่อนถอดสาย Power ออกเพื่อเก็บเครื่องลงกระเป๋ าจะต้อง แน่ใจว่าพัดลมระบายความร้อนหยุดหมุนแล้ วเท่านั ้น ซึ่งโปรเจคเตอร์รุ่นปัจุบันจะใช้เวลาระบายความ ร้อนหลอดหรือที่เรียกว่า Cooldown น้อยลงมากโดยที่ไม่ทำให้ท่านเสียเวลารอเหมือนโปรเจคเตอร์ในยุค แรกๆ
การเชื่อมต่อไปยังโปรเจคเตอร์
คุณสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังโปรเจคเตอร์เพื่อแสดงการน าเสนอบนหน้าจอ ขนาดใหญ่ คำแนะข้างล่างนี้ จะอธิบายวิธีเชื่อมต่อกับโปรเจคเตอร์โดยการเสียบสายเคเบิลของโปรเจคเตอร์กับ วิดีโอพอร์ตบนคอมพิวเตอร์ของคุณ นี่เป็นวิธีทั่วไปในการเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์ คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับโปรเจคเตอร์บางประเภท (เรียกว่า โปรเจคเตอร์เครือข่าย) ผ่านเครือข่าย ซึ่งช่วยให้คุณแสดงงานนาเสนอผ่านเครือข่าย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในห้องหรือแม้แต่ในอาคารเดียวกันกับ โปรเจคเตอร์ เมื่อต้องการดูว่าโปรเจคเตอร์ของคุณมีความสามารถด้านเครือข่ายนี ้หรือไม่ให้ตรวจสอบ ข้อมูลที่มาพร้อมกับโปรเจคเตอร์หรือติดต่อผู้ผลิต
ต้องการเชื่อมต่อไปยังโปรเจคเตอร์
1. ตรวจสอบว่าโปรเจคเตอร์เปิดอยู่ แล้วเสียบสายเคเบิลของโปรเจคเตอร์เข้ากับวิดีโอ พอร์ตบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
*หมายเหตุ
โปรเจคเตอร์ใช้สายเคเบิล VGA หรือ DVI คุณต้องเสียบสายเคเบิลเข้ากับ วิดีโอพอร์ตที่ตรงกันบนคอมพิวเตอร์ของคุณ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่ง จะมีวิดีโอพอร์ตทั ้งสองแบบ แต่แล็ปท็อปส่วนใหญ่จะมีเพียงแบบเดียว โปรเจคเตอร์บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ พอร์ต USBบนคอมพิวเตอร์ ของคุณด้วยสายเคเบิล USB พอร์ต VGA และ DVI
2. เปิด ‘แผงควบคุม’ ด้วยการคลิกปุ่มเริ่ม แล้วคลิก แผงควบคุม
3. ในกล่องค้นหา ให้พิมพ์ โปรเจคเตอร์แล้วคลิก เชื่อมต่อไปยังโปรเจคเตอร์ (เมื่อต้องการใช้แป้นพิมพ์ลัดแทน ‘แผงควบคุม’ ให้กดแป้นโลโก้ของ Windows +P)
4. เลือกวิธีที่คุณต้องการแสดงเดสก์ท็อปดังต่อไปนี้
- เฉพาะคอมพิวเตอร์เท่านั้น (ซึ่งจะแสดงเฉพาะเดสก์ท็อปของคุณบนหน้า จอคอมพิวเตอร์ของคุณ)
- ทำสำเนา (ซึ่งจะแสดงเดสก์ท็อปของคุณทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และ โปรเจคเตอร์)
- ขยาย (ซึ่งจะขยายเดสก์ท็อปของคุณจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณไปยัง โปรเจคเตอร์) •
- เฉพาะโปรเจคเตอร์เท่านั้น (ซึ่งจะแสดงเฉพาะเดสก์ท็อปของคุณบน โปรเจคเตอร์) ตัวเลือกสี่รายการส าหรับ วิธีการแสดงเดสก์ท็อปของคุณ
คุณสามารถใช้ขั้นตอนเดียวกันนี้ เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณเข้ากับจอภาพแทนการใช้ โปรเจคเตอร์